ประกันสังคมจ่อปล่อยกู้เพิ่มอีกหมื่นล้าน สานต่อบ้าน สปส.รอบสอง
นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการนำเงินประกันสังคมจำนวน 10,000 ล้านบาท จัดทำโครงการบ้าน สปส. อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.5 ต่อปี ระยะเวลา 5 ปี ทำให้ได้รับการตอบรับจากผู้ประกันตนจำนวนมากว่า ที่ผ่านมา สปส. ได้โอนเงินให้กับธนาคารเพื่อปล่อยกู้ให้กับผู้ประกันตนซื้อบ้านไปแล้ว 4,500 ล้านบาท และได้มีการตรวจสอบหลักฐานรายงานการทำนิติกรรมของธนาคารทั้ง 8 แห่ง ที่เสนอมาแล้ว ซึ่งหลังจากนี้สำนักบริหารการลงทุนของ สปส.จะโอนเงินจำนวน 3,500 ล้านบาทให้กับธนาคาร อย่างช้าที่สุดวันที่ 17 มิถุนายน เพื่อให้ผู้ประกันตนได้กู้ซื้อบ้านต่อไป ทั้งนี้ เชื่อว่าวงเงินกู้ที่เหลืออีก 2,000 ล้านบาท จะหมดภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้แน่นอน เนื่องจากยังมีผู้ประกันตนอีกจำนวนมากที่มีความต้องการจะกู้เงินซื้อบ้านแต่จำนวนเงินมีไม่เพียงพอ
เลขาธิการ สปส.กล่าวอีกว่า ผลตอบรับที่เกิดขึ้นของผู้ประกันตนจำนวนมากจากโครงการดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่ สปส. ผ่อนปรนเงื่อนไขการกู้เงินซื้อบ้านง่ายขึ้น อัตราดอกเบี้ยถูกและยังขยายไปสู่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการรีไฟแนนซ์ ทำให้โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งแตกต่างจากโครงการบ้าน สปส.ในอดีตที่ผ่านมา ที่กำหนดให้ผู้ประกันตนต้องทำข้อตกลงกับบริษัทบ้านจัดสรร ส่งผลให้เกิดข้อจำกัด ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดโครงการแล้ว สปส.จะรายงานสรุปผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการประกันสังคมพิจารณาทำโครงการต่อเนื่องในเดือนกรกฏาคมโดยฝ่ายเลขานุการของบอร์ด สปส. ได้มีการเสนอขยายขนาดของการกู้เงินที่จะไม่กำหนดให้ทุกคนต้องกู้วงเงินเพียงแค่ 1.5 ล้านบาท แต่ให้สิทธิกู้ได้วงเงิน 5 แสนบาท สำหรับผู้ประกันตนที่ฐานเงินเดือนน้อย รวมทั้งขยายการกู้เงินให้กระจายไปสู่ภูมิภาค
“การปล่อยกู้รอบใหม่ในวงเงินอีก 1 หมื่นล้านที่จะตามมา จะต้องตรวจสอบความเข้มของธนาคารที่ปล่อยกู้ว่ามีลักษณะไหน โดยจะนำตัวเลขมาคลี่ เช่น ยอดลูกค้ารีไฟแนนซ์มีจำนวนเท่าไหร่ กู้ซื้อบ้านหลังใหม่เท่าไหร่ ซ่อมแซมบ้านเท่าไหร่ ข้อมูลเหล่านี้จะบอกถึงทิศทางที่ สปส.จะสามารถกำหนดกลุ่มลูกค้าได้ชัดเจนขึ้น และทำให้บอร์ด สปส.เห็นภาพก่อนที่จะตัดสินใจอนุมัติโครงการ”นายปั้นกล่าว
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการกู้เงินของผู้ประกันตนมักจะใช้บริการกับธนาคารใหญ่มากกว่านั้น นายปั้น กล่าวว่า การปล่อยเงินกู้ของ สปส.จะนำเงินไปฝากทุกธนาคาร ธนาคารละ 3,000 ล้านบาท โดยไม่เลือกว่าจะเป็นธนาคารเล็กหรือธนาคารใหญ่ แต่ปัญหาที่พบ คือ บางธนาคารจะล็อกยอดตัวเลขของผู้ที่มากู้ ทำให้ผู้ประกันตนเสียสิทธิอันพึงมีพึงได้ ซึ่งการทำข้อตกลงรอบใหม่ สปส.ก็ต้องขอความร่วมมือและทำความเข้าใจกับธนาคารทั้ง 19 แห่ง ให้ปฎิบัติตามข้อตกลงให้ปล่อยกู้กับผู้ประกันตนทุกรายโดยไม่จำกัดตัวเลขผู้กู้
ที่มา:หนังสือพิมพ์แนวหน้าออนไลน์ --http://www.ryt9.com/s/nnd/922727 พฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน 2553
.........................................................................................
แบงก์ล็อกสเปกกู้เงินซื้อบ้านสปส.2.5%
ปิดประตูผู้ประกันตนกู้รีไฟแนนซ์หนี้ซื้อบ้าน ดอกเบี้ย 2.5 % อ้างวงเงินหมดแล้ว แบงก์ล็อกสเป็กให้ลูกค้าเงินเดือนผ่านแบงก์ตัวเองมีสิทธิได้ก่อน
หลังจากธนาคารพาณิชย์ 9 แห่ง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับสำนักงานประกนสังคมปล่อยเงินกู้ให้ผู้ประกันตนซื้อบ้าน หรือรีไฟแนนซ์หนี้อัตราดอกเบี้ย 2.5 % คงที่ 5 % วงเงิน 10,0000 ล่าสุดได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกันตนว่าธนาคารไทยพาณิชย์กับธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) แจ้งว่าวงเงินกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษหมดแล้ว ในขณะเดียวกันธนาคารพาณิชย์บางแห่งได้มีการกันวงเงินอัตราดอกเบี้ยพิเศษนี้ให้กับลูกค้าธนาคารที่มีการจ่ายเงินเดือนผ่านธนาคารตนเองเท่านั้น
นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) กล่าวว่า ขณะนี้สปส.นำเงินไปฝากกับธนาคารพาณิชย์ประมาณ 6 ล้านบาทเพื่อปล่อยกู้ให้กับผู้ประกันตนและอยู่ระหว่างการตรวจสอบผู้ประกันตนอีกประมาณ 500 ราย ซึ่งยืนยันวงเงินกู้ยังไม่หมดแต่ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารว่ามียอดการยื่นขอเงินกู้จำนวนมากเกินวงเงินตั้งใจจะเข้าร่วมโครงการหรือไม่
สำหรับกรณีธนาคารพาณิชย์บางแห่งมีเงื่อนไขการปล่อยกู้เฉพาะลูกค้าที่มีเงินเดือนผ่านธนาคาร หรือจำกัดจำนวนการรีไฟแนนซ์หนี้ ที่เป็นสิทธิของแต่ละธนาคาร เนื่องจากในข้อตกลงของสปส.ไม่สามารถที่จะไปเข้มงวดหรือกำหนดกฎเกณฑ์เน้นการปล่อยกู้ให้กับผู้ประกันตนวงเงินไม่เงิน1.5 ล้านบาทเท่านั้น และส่วนใหญ่กว่า 40 % กู้เงินต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท
ที่มา:http://www.posttoday.com 30 เมษายน 2553